Fast & Furious 11

อาจจะเป็นเพราะว่าผลลัพธ์ที่ออกมาของ "Fast X" เมื่อปีก่อน ยังไม่ค่อยประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่สตูดิโอตั้งเอาไว้ เพราะ ยูนิเวอร์แซล พิคเจอร์ส ได้ทุ่มทุนสร้างกับงบประมาณสูงกว่า 340 ล้านเหรียญ แต่ปรากฏว่าหนังกวาดรายได้กลับคืนมาที่ราว ๆ 700 ล้านเหรียญ ทั้งที่ตัวเลขที่คาดหวังเอาไว้น่าจะอยากจะให้ทะลุหลักพันล้านขึ้นไป นั่นจึงทำให้แฟรนไชส์หนังชุดนี้ต้องกลับมาหารือและทบทวนแนวทางสร้างภาคสุดท้ายกันใหม่

หากยังจำกันได้ Fast X เป็นโครงการหนังที่ค่อนข้างขรุขระไม่เบา เพราะเมื่อครั้งที่หนังจะใกล้จะเปิดกล้องถ่ายทำ "จัสติน ลิน" ผู้กำกับที่ดูแลแฟรนไชส์นี้มาหลายภาค อยู่ ๆ ก็ประกาศถอนตัวออกไปอย่างกะทันหัน ทำให้ได้ "หลุยส์ เลเทอร์เรียร์" มารับหน้าที่นี้แทน และด้วยความที่หนังยังอัดแน่นไปด้วยทีมนักแสดงชุดใหญ่มหึมา นั่นจะเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ทุนสร้างของหนังเรื่องนี้บานปลายมากขึ้นเรื่อย ๆ นั่นเอง

โดยล่าสุดมีข้อมูลข่าวลือที่ไม่เป็นที่ยืนยัน ที่เปิดเผยจาก "เจฟ ชไนเดอร์" แห่ง  สื่อวงในฮอลลิวูดที่มักจะได้ข้อมูลล้วงลึกก่อนใครเสมอ ๆ ได้ระบุว่า Fast & Furious 11 หรือ Fast X Part 2 จะเป็นหนังภาคที่กลับคืนสู่สามัญอีกครั้ง เพราะปัจจัยหลักคาดว่าสตูดิโอหนังจะทำการตัดทุนสร้างของหนังภาคนี้ออกไปส่วนหนึ่ง ข้อมูลอ้างว่า Fast 11 อาจจะได้ทุนสร้างราว ๆ 200 ล้านเหรียญ หรือว่าน้อยกว่านั้น

นอกจากนี้ ข้อมูลวงในยังบอกด้วยว่า Fast 11 อาจจะเป็นเหมือนภาคบทสรุปสุดท้ายของภาคหลักหนังตระกูลฟาสต์ ที่จะพาคนดูย้อนกลับไปฟีลเดียวกับจุดเริ่มต้นในหนังภาคแรก Fast & Furious เมื่อปี 2001 ที่อาจจะดุดันแต่เรียบง่ายขึ้น เป็นบทสรุปของตัวละคร ดอม ที่รับบทโดย "วิน ดีเซล" และยังมีเสียงร่ำลือว่า "เจสัน โมโมอา" ที่รับบทเป็น ดันเต้ เรเยส ตัวร้ายในภาคล่าสุด อาจจะไม่กลับมาปรากฏตัวอีกใน Fast 11 เพราะตัวละครนี้จะถูกตัดหายไปดื้อ ๆ

แน่นอนว่าข้อมูลข้างต้นยังเป็นเพียงข่าวลือ ไม่มีการยืนยันและคำอธิบายจากสตูดิโอผู้สร้างแต่อย่างใด แต่ก็นับว่าเป็นประเด็นที่ค่อนข้างสมเหตุสมผล หากว่าจำเป็นต้องตัดงบประมาณสร้างหนังที่สูงมากเกินเหตุไป และถึงแม้ว่าตัวร้ายตัวล่าสุดจะไม่กลับมา แต่หนังก็ได้ปูทางเอาไว้ให้ ลุค ฮ็อบส์ ที่รับบทโดย "ดเวย์น เดอะร็อก จอห์นสัน" กลับมาอีกในภาคจบ เท่านี้ก็น่าจะเพียงพอแต่การเซอร์วิสแฟน ๆ แล้ว ดูหนังออนไลน์